กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. สั่งสอบปมสล็อตแตกง่ายทำร้ายอาสาพยาบาล ในการชุมนุม #ม็อบ13กุมภา มุ่งเน้นแก้ไขและป้องกันปัญหา นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ประชาชนกลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม ‘นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน’ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.64 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และหน้าศาลฎีกา สนามหลวง กรุงเทพฯ
ต่อมาปรากฏภาพข่าวในสื่อสังคมออนไลน์กรณีอาสาสมัครทางการแพทย์รายหนึ่งอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าล้อมรถและจับกุมโดยกดตัวลงกับพื้นจนได้รับบาดเจ็บ
ในช่วงเจ้าหน้าที่ใช้กำลังในการผลักดันผู้ชุมนุมออกเพื่อรักษาความสงบ และเปิดเส้นทางการจราจร ก่อนถูกนำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 (ตชด. ภาค 1) นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในคราวประชุม กสม. ด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จึงมีมติเห็นควรหยิบยกกรณีอาสาสมัครทางการแพทย์ อ้างว่าถูกจับกุมและได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐขึ้นตรวจสอบ
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ซึ่งระบุว่า เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการไม่ว่าโดยทางใด ไม่ว่าจะมีผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียนหรือไม่ก็ตามว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น
ให้คณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏโดยไม่ล่าช้า และต้องศึกษาและวิเคราะห์ให้ทราบถึงสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาและป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรื่องนั้นหรือลักษณะเดียวกันนั้นขึ้นอีก
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นในกรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร หาก ป.ป.ช.วินิจฉัยว่าฝ่าฝืนจักได้ดำเนินการส่งให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ถ้าไม่มีวัคซีนล็อตใหม่เข้ามา เราจะไม่สามารถเพิ่มศักยภาพการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ให้กับประชากรได้เลย การฉีดวัคซีนได้ช้าก็จะส่งผลให้เราต้องอยู่กับความเสี่ยงที่จะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ และการแพร่ระบาดรอบใหม่อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเราจะควบคุมการแพร่ระบาดรอบนี้ไปได้
น้อยใจ! ประยุทธ์ ออกจากห้องประชุม หลังพูดแล้วไม่มีใครฟัง
ประยุทธ์ ออกจากห้องประชุม ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นิพนธ์ ประเด็นนิคมจะนะ ตัดพ้อ พูดไปก็ไม่มีใครฟัง เห็นแต่หัวเราะกันอยู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ยุติการชี้แจงประเด็น กรณีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ใช้อำนาจและอิทธิพลทางการเมือง ฮุบประโยชนน์จากการก่อสร้างโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ พร้อมกล่าวว่า “ผมขอตอบแค่นี้ดีกว่า เพราะพูดก็ไม่มีใครฟัง เห็นหัวเราะกันอยู่” ซึ่งหลังจากที่นายกฯพูดจบก็ได้ ออกจากห้องประชุมทันที
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ ในประเด็นดังกล่าว โดยผู้ถูกกล่าวหาใช้อำนาจเปลี่ยนสีผังเมือง ออกโฉนดที่ดิน และเอื้อเครือญาติ รวมถึงร่วมมือกับกลุ่มทุน กลุ่มนักการเมือง และกลุ่มญาติที่ทำหน้าที่นายหน้าค้าที่ดิน
และใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านเพื่อขายสิทธิที่ดินที่ครอบครองราคาถูก เพื่อหวังผลประโยชน์จากราคาซื้อขายที่ดิน ดังนั้นโครงการจะนะ คือ โครงการที่นายทุนคิด ทหารดัน และนักการเมืองหาผลประโยชน์ เพื่อทำลายชีวิตและจิตวิญญาณของพี่น้องชาวจะนะ เพื่อประโยชน์ของตนเอง
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ว่าตนไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับใคร และไม่ใช่ไปกล่าวหาพันกัน มีการเอื้อประโยชน์ แต่ใครที่ได้ประโยชน์ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ หากพบการทุจริตก็แก้ไป แต่อย่าให้โครงการใหญ่ที่กำหนดยุทธศาสตร์ไว้แล้วต้องสะดุด พังพินาศไปด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่าปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้มีปัญหาที่ซับซ้อนในหลายมิติทั้งเศรษฐกิจและสังคม ถ้าชาติพันธ์ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ดังนั้นจะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างละเอียดอ่อน จึงมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ จากเดิม 3 จังหวัด 3 พื้นที่ และมาเพิ่มที่จังหวัดสงขลา ที่อำเภอจะนะ ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลก็ได้จัดคณะกรรมการลงไปดูแล
ส่วนที่กล่าวหาว่าใน 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษไม่มีความก้าวหน้านั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าทุกอย่างเป็นการเตรียมการ ต้องรอระยะเวลา ไม่ใช่ตั้งวันนี้แล้วจะได้เลย และหาจุดเชื่อมต่อศักยภาพ
ส่วนการเปลื่ยนสีผังเมืองนั้น ก็เกิดจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่ว่าใครจะไปออกสีโน้น สีนี้ได้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ และมีการทำประชาพิจารณ์ทั้งหมด ถูกต้องอย่างไรให้ไปว่ากันตามกระบวนการ และตนขอชี้แจงในนามรัฐบาล ในนามนายกรัฐมนตรี การลงทุนมีความจำเป็นที่ต้องให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ตนสั่งการเช่นนี้ทุกครั้งไม่มีละเว้นการ แต่การตรวจสอบนั้นมีกลไกลอยู่ สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ แจ้งองค์กรอิสระตรวจสอบได้ การจะบอกว่าใครผิดถูกในสภานี้ไม่ใช่ศาลที่มาจะชี้ว่าใครผิดใครถูก เพราะศาลอยู่ข้างนอก ตนไม่อยากให้การพูดในวันนี้ ทำให้เกิดผลกระทบเรื่องการลงทุนจากประเทศอื่น รวมถึงกังวลว่าจะลามไปสู่พื้นที่อื่น เช่น EEC
ทั้งนี้ไม่ทันที่จะชี้แจงเสร็จสิ้น พลเอกประยุทธ์ ก็ได้ยุติการชี้แจงและเดินออกจากห้องไปในที่สุดสล็อตแตกง่าย