แรมโบ้อีสาน หอบหลักฐาน ฟ้อง อมรัตน์ ข้อหา ม.112

แรมโบ้อีสาน หอบหลักฐาน ฟ้อง อมรัตน์ ข้อหา ม.112

แรมโบ้อีสาน นำหลักฐานแจ้งความ นาง อมรัตน์ ในข้อหา ม.112 ชี้พูดจาเลียนแบบเบื้องสูงในระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์ นาย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นำหลักฐานเข้าแจ้งความ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยระบุว่าอมรัตน์ใช้ถ้อยคำในการอภิปราย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในลักษณะเลียนแบบสถาบันเบื้องสูง 

เพื่ออภิปรายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงยังใช้ถ้อยคำ ‘กล้ามาก เก่งมาก’ อีกหลายครั้ง ในแฟนเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง

จึงได้แจ้งความในข้อหาผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ไปด้วย นอกจากนี้ ยังได้แนบหลักฐานเพื่อแจ้งความอมรัตน์ในข้อหาให้การสนับสนุนแกนนำราษฎร ที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 โดยไปร่วมชุมนุมกับ 4 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ทำผิดกฎหมาย และได้ให้เงินสนับสนุนการชุมนุม

ทั้งนี้ สุภรณ์และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ได้แนบหลักฐานเป็นแฟลชไดรฟ์พร้อมคลิป 4 คลิป เพื่อนำไปแจ้งความ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ด้วยเช่นกัน โดยสุภรณ์ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับหรือสั่งการให้ดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ในฐานะที่เป็นหนึ่งในทีมกฎหมายและวอร์รูมของรัฐบาล เห็นว่าการกระทำของอมรัตน์เข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องแจ้งความ พร้อมกับกล่าวเตือนให้เพจเฟซบุ๊กและประชาชนที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย ระมัดระวังการใช้ถ้อยคำว่า ‘กล้ามาก เก่งมาก’ เนื่องจากอาจเข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้านนางอมรัตน์ พูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีความกังวลอะไร เพราะตนทำหน้าที่ตรวจสอบและอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้อภิปรายเพื่อยกย่อง หรือชื่นชมนายกฯ

พิธา จวก ประยุทธ์ ใช้กฎหมายปิดปาก หลังตอบคำถาม อมรัตน์ ไม่ได้

พิธา ออกโรงจวก ประยุทธ์ ใช้กฎหมายปิดปาก พร้อมชี้ส่งลูกสมุนฟ้อง อมรัตน์ หลังตอบคำถามในอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กพูดถึงกรณีที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมยื่นฟ้อง นางอมรัตน์ โชคปมิตป์กุล ส.ส.ก้าวไกล โดยนายพิธาระบุว่า นายกฯไม่สามารถตอบคำถามของ นางอมรัตน์ ได้จึงส่งลูกสมุนจัดการ

โดยข้อความระบุว่า “วันนี้ที่อาคารรัฐสภา ผมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในภาพรวมขอยืนยันถึงความเข้มข้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งเป็นไปอย่างมีวุฒิภาวะในการหาหลักฐานและเหตุผลมาอภิปรายตามญัตติที่เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ยึดตามข้อบังคับการประชุม และตามรัฐธรรมนูญ โดยพรรคก้าวไกลขอให้กำลังใจผู้อภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกคนให้มีสมาธิ อย่าหวั่นไหวต่อการประท้วงและการเสียดสี

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจตอบไม่ตรงคำถามในหลายครั้ง ตั้งแต่วันเเรกเรื่องการทุจริต เอื้อนายทุน เรื่องของนำหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไปช่วยพวกพ้องของตนเอง เเละในประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ในเรื่องของวัคซีน เเรงงาน การลงทุนทางเศรษฐกิจ ส่วนในวันนี้จะเป็นเรื่องของการทุจริตเชิงนโยบายในการใช้อำนาจของรัฐมนตรีเข้าไปเอื้อทุนใหญ่บางกลุ่มและเอื้อพวกพ้องของตนเองจนทำให้ประเทศชาติเสียหาย คนในพื้นที่เสียหาย ขอให้ประชาชนติดตามในการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างใกล้ชิด

จากกรณีที่สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ที่กล่าวหาอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล หลังจากที่อภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไม่จ่ายภาษีค่าไฟค่าน้ำบ้านพักรับรองของกระทรวงกลาโหมและรับประโยชน์เกิน 3,000 บาท หลังเกษียณอายุราชการ นั้น ผมยืนยันว่ากรณีนี้เป็นเอกสิทธิ์ในการอภิปรายของส.ส.ที่สามารถกระทำได้ และพร้อมให้ทีมกฏหมายของพรรคก้าวไกลสู้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ผมขอถามกลับต่อพลเอกประยุทธ์ ว่าเห็นด้วยต่อการกระทำเช่นนี้หรือไม่ เมื่อส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งคำถามถ้าไม่ผิด ก็ขอให้ชี้เเจงต่อสภาผู้แทนราษฎร หากชี้เเจงสภาไม่ได้ให้ตอบทีหลัง เเต่กรณีที่จะใช้พรบ.คอมฯ มาตรา 14 มาปิดปาก ส.ส.ฝ่ายค้าน กรณีนี้ท่านเป็นผู้มอบอำนาจหรือไม่ เเละเห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้หรือไม่ มันไม่สง่างาม ไม่ถูกต้อง

พวกเราไม่หวั่นหากพรรคร่วมรัฐบาลจะยื่นฟ้องต่อพรรคก้าวไกล ในเนื้อหาที่จะอภิปรายอีกสองวันสุดท้าย จะเต็มที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพื่อตรวจสอบการบริหารราชการเเผ่นดิน นอกจากนี้ คิดว่าการประท้วงของ ส.ส.รัฐบาลที่ผ่านมาเพียงพอเเล้ว หากในสองวันสุดท้ายยังเกิดการประท้วงที่ไม่จำเป็นอีก ประชาชนคงมองว่าเป็นแค่เกมส์ทางการเมืองแบบเก่าที่ใช้ทำลายสมาธิผู้อภิปราย ที่ทำหน้าที่ตั้งคำถามแทนประชน ในช่วงที่ประเทศต้องการความสามัคคีมากที่สุด ขอให้ประชาชนติดตามการอภิปราย เเละเรียกร้องไปยังประชาชน ให้ติดต่อไปตามช่องทางส.ส.ในเขตพื้นที่ของตนเพื่อสะท้อนเจตจำนงค์ หากชมการอภิปรายเเล้วพบว่ามีหลักฐานที่เอาผิดรัฐบาลได้และ ส.ส.ในเขตของท่านยังไว้วางใจในระบบเเบบนี้ ซึ่งแปลว่า พวกเขาเหล่านั้นยังไว้ใจในระบบที่ประเทศไม่ยึดถือไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่มีการปฏิรูปกองทัพ ปล่อยปละละเลยการทุจริตคอร์รัปชัน

แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี